บุรีรัมย์ – วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินลงตรวจสอบบ้านร้าว 8 หลังที่ อ.สตึก หลังชาวบ้านระบุชัดเกิดจากการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียม ชี้ผ่านไปร่วมปียังไม่ได้รับความช่วยเหลือ
วันนี้ (16 มิ.ย.) รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดบุรีรัมย์ ตัวแทนกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่ตรวจสอบร่องรอยบ้านร้าวที่ ต.ดอนมนต์ และ ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ จำนวน 8 หลังคาเรือน
หลังจากมีชาวบ้านทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ได้รับผลกระทบจากการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมของบริษัทต่างชาติ แปลงสำรวจที่ L31/50 เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา จนทำให้พื้นบ้านทรุดและฝาผนังแตกร้าว ได้แจ้งความร้องทุกข์ และร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงาน แต่เวลาผ่านไปเกือบ 1 ปีแล้วยังไม่ได้รับการชดเชยเยียวยาช่วยเหลือจากทางบริษัทหรือหน่วยงานภาครัฐเลย
การลงพื้นที่มาตรวจสอบร่องรอยบ้านร้าวครั้งนี้เพื่อจะนำข้อมูลไปประมวลผลสรุปส่งให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อประกอบการให้ความเห็นเชิงวิชาการหรือวิชาชีพของวิศวกรรมในฐานะผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดว่าเกิดจากสาเหตุอะไร
รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบตามบ้านทั้ง 8 หลัง พบว่ามีรอยร้าวจริงตามที่ชาวบ้านร้องเรียน แต่รอยร้าวที่พบในลักษณะนี้มีสาเหตุเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากการก่อสร้างที่อาจจะไม่ได้มาตรฐาน หรือเกิดจากแรงสั่นสะเทือนของการจุดระเบิดคลื่นไหว 3 มิติ อาจจะเป็นไปได้ทั้งสองกรณี
แต่ยังไม่สามารถชี้ได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เนื่องจากเวลาได้ผ่านไปนานร่วมปีแล้ว ประกอบกับไม่มีหลักฐานที่ชี้ชัดเจน อีกทั้งรอยร้าวที่พบไม่ได้เป็นร่องรอยขนาดใหญ่ ขนาดทำให้ตัวบ้านพังเสียหาย จึงเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ยาก
อย่างไรก็ตาม จะเก็บรวบรวมข้อมูลจากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ส่งให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อประกอบการให้ความเห็นเชิงวิชาการและวิชาชีพของวิศวกรรม เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป โดยจะต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
ด้านนางสุรารักษ์ เป้าเงิน ชาวบ้านบ้านกระทุ่มเหนือ ที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ทางวิศวกรรมและสำนักงานตรวจการแผ่นดินลงพื้นที่มาตรวจสอบครั้งนี้ ทำให้มีความหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมาได้ร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแต่ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากผลกระทบที่เกิดขึ้น
ส่วนราคาประเมินเบื้องต้นที่ภาครัฐประเมินค่าเสียหายว่าบ้านของตนอยู่ที่ราคาเพียง 4,500 บาท เป็นราคาที่ต่ำไม่เพียงพอซ่อมแซมบ้านที่เสียหายได้ จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมและความเห็นใจทั้งจากทางบริษัทและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องด้วย
ที่มา : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000068158