บริการอะคูสติกสำนักงาน

ปัญหา → ผลกระทบ → วิธีแก้ของเรา

ขอบเขตงาน (Scope)

• สำรวจพื้นที่สำนักงานและวิเคราะห์จุดรั่วไหลของเสียง
• วัด/ประเมิน STC/FSTC ของผนังและประตูห้องประชุม ตาม ASTM E336/ISO 16283-1
• วัด Reverberation Time (RT) และ Speech Transmission Index (STI) ในพื้นที่ประชุมและพื้นที่ส่วนกลาง
• ประเมิน เสียงพื้นหลัง (NC/NR) จากระบบ HVAC และอุปกรณ์สำนักงาน
• ออกแบบการตกแต่งและเลือกวัสดุอะคูสติก เช่น แผงดูดซับเสียง ผนังกั้นพื้นที่ เฟอร์นิเจอร์ดูดซับ
• จัดเตรียมแผนปรับปรุงและ BoQ พร้อมคาดการณ์ผลลัพธ์และตัวเลือกหลายระดับ
• ทดสอบและตรวจสอบประสิทธิภาพหลังการติดตั้ง เพื่อยืนยันว่าเสียงและการก้องลดลงตามเป้าหมาย

มาตรฐาน & วิธีการ

เราอ้างอิงมาตรฐานสากลสำหรับการวัดและออกแบบอะคูสติกสำนักงาน ได้แก่ ISO 3382-2 สำหรับการวัดค่าก้องในห้อง, ISO 16283-1/-2 และ ASTM E336 สำหรับการทดสอบภาคสนามของผนังและพื้น, และมาตรฐาน NC/NR สำหรับการประเมินเสียงพื้นหลัง นอกจากนี้เรายังใช้หลักเกณฑ์ของ WELL และ LEED ในการพิจารณามาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน

ผลลัพธ์ที่คุณจะได้รับ

• รายงาน TH/EN พร้อมกราฟ STC/FSTC, RT, NC/NR และ STI
• แนวทางการปรับปรุง Good / Better / Best ที่เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายและประสิทธิภาพ
• รายการวัสดุอะคูสติกและ BoQ พร้อมข้อมูลผู้ผลิต
• ภาพจำลองก่อน–หลัง เพื่อช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน
• แบบฟอร์มตรวจสอบและการทดสอบยืนยันหลังติดตั้ง

กระบวนการ & ไทม์ไลน์

ขั้นตอนการดำเนินงานเริ่มจาก (1) วิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้งานและลักษณะพื้นที่ (2) วัดค่าอะคูสติกในสถานที่และเก็บข้อมูลทางสถาปัตยกรรม (3) วิเคราะห์ข้อมูลและจำลอง (4) ออกแบบการปรับปรุงพร้อมกำหนดตำแหน่งวัสดุอะคูสติก (5) สนับสนุนการติดตั้งและควบคุมคุณภาพ (6) ทดสอบประสิทธิภาพหลังติดตั้งและปรับปรุงหากจำเป็น โดยปกติโครงการขนาดกลางใช้เวลาประมาณ 3–5 สัปดาห์ ขึ้นกับขนาดพื้นที่และความซับซ้อน

ต้นทุน & ความคุ้มค่า

การลงทุนในอะคูสติกสำนักงานสร้างความคุ้มค่าในระยะยาว: พนักงานมีสมาธิและสุขภาพจิตดีขึ้น ลดความล้า เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดการลาออก นอกจากนี้ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัท และเพิ่มมูลค่าสำนักงานในตลาด