บริการที่ปรึกษาอาคาร
ยกระดับคุณภาพเสียงและความเป็นส่วนตัวภายในอาคารของคุณ ผ่านการออกแบบฉนวนกันเสียง การตรวจวัดค่ารั่วเสียงและเสียงกระแทก และการปรับปรุงสภาพเสียงห้องให้ตรงตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและสบายยิ่งขึ้น

ปัญหา → ผลกระทบ → วิธีแก้ของเรา
ขอบเขตงาน (Scope)
- สำรวจหน้างานและวิเคราะห์เส้นทางการรั่วเสียง
- วัด/ประเมิน STC/FSTC สำหรับผนังและประตูตามมาตรฐาน ASTM E336/ISO 16283-1
- วัดเสียงกระแทกของพื้นตาม ISO 16283-2 และ ISO 717-2
- ประเมิน เสียงพื้นหลัง (NC/NR) และระบบ HVAC
- วัด Reverberation Time (RT) และ Speech Transmission Index (STI)
- เสนอแนวทางปรับปรุง (ผนัง/พื้น/ฝ้า, ซีล, resilient channels) พร้อม BoQ และผลคาดการณ์
- ทดสอบยืนยันผลหลังการปรับปรุง
มาตรฐาน & วิธีการ
เราอ้างอิงมาตรฐานสากล เช่น ISO 16283-1/-2 สำหรับการทดสอบภาคสนามของผนังและพื้น, ISO 717-1/-2 สำหรับการให้เรตติ้งเสียงผ่านผนังและพื้น, และ ISO 3382-2 สำหรับการวัดค่าก้อง (RT) ในห้อง รวมถึงมาตรฐาน NC/NR สำหรับเสียงพื้นหลัง
ผลลัพธ์ที่คุณจะได้รับ
- รายงาน TH/EN พร้อมกราฟ STC/FSTC, RT, NC/NR
- ตัวเลือกแนวทาง Good / Better / Best พร้อมผลคาดการณ์
- รายละเอียดวัสดุและ BoQ
- เช็คลิสต์ตรวจรับและแบบฟอร์มทดสอบหลังปรับปรุง
กระบวนการ & ไทม์ไลน์
ขั้นตอนทั่วไป ได้แก่ (1) วิเคราะห์และวัดค่า (2) ออกแบบและจำลอง (3) จัดทำ BoQ (4) ปรับปรุง/ติดตั้ง และ (5) วัดยืนยันผล โดยโครงการใช้เวลาประมาณ 3–5 สัปดาห์ ขึ้นกับพื้นที่และความซับซ้อน
ต้นทุน & ความคุ้มค่า
การลงทุนในฉนวนกันเสียงจะเพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน ลดคำร้องเรียน และทำให้สภาพแวดล้อมน่าอยู่ขึ้น ค่าปรับปรุงขึ้นอยู่กับเป้าหมาย STC/FSTC และขอบเขตงานที่จะดำเนินการ
เคสย่อ
โครงการอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ — เราปรับปรุงผนังให้ FSTC เพิ่มขึ้น 8 dB และลดค่าก้องจาก 1.1 วินาทีเหลือ 0.6 วินาทีภายใน 4 สัปดาห์
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ต่างกันอย่างไรระหว่าง STC กับ FSTC?
ควรตั้งเป้า STC/FSTC เท่าไร?
จำเป็นต้องทดสอบซ้ำหลังปรับปรุงหรือไม่?
ส่งรายละเอียดมาให้เราเพื่อรับคำแนะนำและใบเสนอราคา