บริการแผนที่เสียงสิ่งแวดล้อม
ความเจริญเติบโตของเมืองและโครงการขนาดใหญ่ทำให้ระดับเสียงสิ่งแวดล้อมสูงขึ้น การทำแผนที่เสียงช่วยให้คุณมองเห็นแหล่งกำเนิดเสียง การแพร่กระจาย และการรับฟังของชุมชน ทีมของเรามีประสบการณ์ในการเก็บข้อมูลภาคสนามและสร้างแบบจำลองเพื่อจัดทำแผนที่เสียง ซึ่งจำเป็นต่อการวางแผน ลดผลกระทบ และปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม

ปัญหา → ผลกระทบ → วิธีแก้ของเรา
ขอบเขตงาน (Scope)
- เก็บข้อมูลภาคสนาม: วัดระดับเสียง ณ จุดสำคัญ, รวบรวมข้อมูลจราจร, แผนที่ภูมิประเทศ และข้อมูลอาคาร
- สร้างแบบจำลองการแพร่กระจายเสียงด้วยซอฟต์แวร์ระดับโลก เช่น CadnaA หรือ SoundPLAN
- จัดทำแผนที่เสียง (Day/Eve/Night) และการวิเคราะห์การสัมผัสของประชากร
- ประเมินการสอดคล้องตามมาตรฐานท้องถิ่นและข้อกำหนดของ EIA หรือ DIN/ISO
- วางแผนและออกแบบมาตรการลดเสียง เช่น กำแพงกันเสียง การจัดโซน การวางแนวอาคาร และพื้นผิวถนน
- ให้คำปรึกษาในการสื่อสารกับหน่วยงานรัฐและชุมชน พร้อมการจัดเวิร์กช็อปให้ความรู้
มาตรฐาน & วิธีการ
การทำแผนที่เสียงของเราปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เช่น ISO 1996-1/-2 สำหรับการอธิบายและการประเมินเสียงสิ่งแวดล้อม, ISO 9613-2 สำหรับการคำนวณการลดทอนเสียงจากแหล่งจุดและแหล่งทาง, และวิธีการของ NMPB ในการจำลองเสียงจากการจราจร รวมถึงแนวทางของ EU Environmental Noise Directive (END) และมาตรฐานท้องถิ่น เราใช้เครื่องมือวัดที่ได้รับการสอบเทียบและซอฟต์แวร์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เพื่อให้ผลลัพธ์แม่นยำและโปร่งใส
ผลลัพธ์ที่คุณจะได้รับ
- แผนที่เสียงสีเต็มรูปแบบ (Day/Eve/Night) ที่ระบุระดับ Ld, Le, Ln ในแต่ละพื้นที่
- รายงาน TH/EN พร้อมวิเคราะห์การสัมผัสเสียงของประชากรและการจำแนกพื้นที่เสี่ยง
- ชุดคำแนะนำเพื่อการลดเสียง ทั้งมาตรการเชิงโครงสร้างและการบริหารจัดการ พร้อมประเมินต้นทุนและผลลัพธ์
- ไฟล์โมเดลและข้อมูล GIS สำหรับใช้ในการวางผังเมืองและการวิเคราะห์ต่อเนื่อง
- สไลด์และสรุปสำหรับการนำเสนอให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและหน่วยงานกำกับดูแล
กระบวนการ & ไทม์ไลน์
กระบวนการทำแผนที่เสียงเริ่มจาก (1) กำหนดขอบเขตพื้นที่และเป้าหมายการศึกษา (2) เก็บข้อมูลภาคสนามและข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ความเร็วและปริมาณจราจร ผังอาคาร และ topography (3) สร้างและปรับเทียบโมเดลด้วยข้อมูลที่เก็บมา (4) สร้างแผนที่เสียงและวิเคราะห์ผลกระทบ (5) เสนอแนวทางลดเสียงและประเมินประสิทธิภาพ (6) จัดทำรายงานและนำเสนอผล ระยะเวลาทำโครงการมักอยู่ระหว่าง 4–8 สัปดาห์ ขึ้นกับพื้นที่และความซับซ้อนของข้อมูล
ต้นทุน & ความคุ้มค่า
การลงทุนในแผนที่เสียงสิ่งแวดล้อมช่วยลดความเสี่ยงทางกฎหมายและสร้างความไว้ใจจากประชาชน ช่วยวางแผนการพัฒนาเมืองและโครงการใหม่อย่างยั่งยืน ลดปัญหาการร้องเรียนและค่าปรับ และช่วยเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินในพื้นที่ที่มีการจัดการเสียงอย่างมีประสิทธิภาพ
เคสย่อ
โครงการสำรวจเสียงรอบทางด่วนในกรุงเทพฯ — เราทำแผนที่เสียงสำหรับชุมชนรอบทางด่วนและพบว่า ระดับเสียง Ln สูงกว่า 65 dB(A) ในบางจุด เมื่อเสนอมาตรการกำแพงกันเสียงและปลูกต้นไม้แนวกันชน ระดับเสียงลดลงเฉลี่ย 7 dB(A) ส่งผลให้ผู้พักอาศัยกว่า 500 ครัวเรือนได้รับประโยชน์
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
แผนที่เสียงครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ได้หรือไม่?
ความแตกต่างระหว่างเสียงที่วัดจริงกับเสียงที่จำลองคืออะไร?
ควรอัปเดตแผนที่เสียงบ่อยแค่ไหน?
ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับข้อเสนอและการประเมินเบื้องต้น